บทที่ 16
ห้วงฝันอวลกลิ่นรัก (Mpreg)
ห้วงฝันอวลกลิ่นรัก (Mpreg)

แบบตัวอักษร
ตัวอักษร 1 ตัวอักษร 2
สีพื้นหลัง
Aa Aa Aa Aa
ขนาดตัวอักษร
Aa+ Aa-

บทที่ 16



หรงอวี้หายไปจากหมู่บ้านเฟิงซีอย่างไร้ร่องรอย นับเป็นเวลากว่าสองวันแล้วที่ซูอี้อุ้มลูกชายตามหาผู้เป็นภรรยาทุกหนแห่ง แต่กลับไม่มีผู้ใดพบเจอคุณชายสี่ลู่เจินเลยสักคน


“ฮือออ...ท่านพ่อจ๋า ฮึก ท่านแม่จ๋าทิ้งข้าไปแล้ว” 


ในเวลานี้ซูอี้เองก็เสียน้ำตาไปไม่น้อย ทว่าหากเขายังอ่อนแออยู่เช่นนี้ ลูกชายของเขาคงไร้ที่พึ่ง ดังนั้นซูอี้ไม่อยากให้จื่อเฉิงร้องไห้ เขาจึงได้แต่ส่ายหน้าและบอกว่ามันไม่จริงเลย


“แม่ของลูกรักและห่วงเจ้ากว่าใคร ไม่มีทางที่จะทิ้งลูกไป”


“งั้นท่านแม่จ๋าอยู่ที่ใด ฮือออ ท่านแม่จ๋าข้าคิดถึงท่านแม่” ลูกชายตัวกลมร้องไห้โฮออกมา เสียงแห่งความเสียใจบาดลงลึกเป็นแผลเหวอะหวะ ซูอี้เจ็บปวดจนต้องโอบกอดเด็กน้อยเอาไว้ เขายังติดต่อกับหรงอวี้ไม่ได้แม้ว่าจะผูกพันธะกันแล้วก็ตาม 


เราทั้งสองต่างเป็นเทพทั้งคู่! และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ซูอี้ยังคงปลอบใจของตัวเองได้อยู่ 


เมิ่งหลันที่กำลังไปเก็บสมุนไพร และได้ยินผู้คนในตลาดต่างพูดว่าเจ๋อต้าโดนเมียทิ้งอีกหน หอบลูกตามหาภรรยาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งภาพตรงหน้าก็ยืนยันว่าข่าวนั้นคงเป็นความจริง เจ๋อต้ากอดลูกชายเอาไว้แนบอก สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ทว่าในตากลับเศร้าสร้อย นางยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย หรือว่านี่จะเป็นฝีมือของคุณชายใหญ่ 


“คุณชายเจ๋อต้า เกิดอะไรขึ้นกับพวกท่าน!”


เมื่อซูอี้มองมาก็พบว่าเป็นเมิ่งหลัน นางสะพายตะกร้าเตรียมไปเก็บสมุนไพรอย่างเคย เขาไม่มีแก่ใจจะตอบคำถามของนาง จึงหันกลับไปสนใจลูกชายที่กำลังสะอื้นต่อ 


และนั่นคงเป็นเชื้อเพลิงชั้นยอดที่สุมใจนาง!


“หากให้ข้าเดานะคุณชาย ข้าว่าภรรยาท่านคงกลับจวนสกุลลู่ไปแล้วกระมัง” 


“...?”


ได้ผลเมื่อซูอี้เงยหน้าขึ้นมองนางอีกรอบ แววตาแสดงถึงความสงสัยในสิ่งที่นางพูด จวนผีสิงสกุลลู่ไม่เคยมีผู้ใดย่างกรายเข้าไป มันกลายเป็นสุสานของคนทั้งตระกูลเมื่อคราวเกิดพายุ 


ดังคำสาปที่น่ารังเกียจ ทั้งจวนเหลือผู้รอดชีวิตอยู่สองคน!


กี่ครั้งที่ท่านทะเลาะกัน ภรรยาของท่านก็จะกลับไปจวนสกุลลู่ตลอด ท่านเองก็...ลองไปดูแล้วกัน เมิ่งหลันกล่าวจบนางก็เดินจากไป จวนสกุลลู่อย่างนั้นหรือ? ซูอี้นั่งคิดตามอยู่ลำพังถึงคำพูดของนาง 

***


ความร้อนอบอ้าว และอากาศที่ถ่ายเทได้ไม่ดีพอ ทำให้หรงอวี้ลืมตาตื่นขึ้นมาทีละน้อย ก่อนจะพบว่าที่แห่งนี้คล้ายห้องใต้ดิน มันทั้งเก่าและโทรม ฝุ่นหนาเตอะจนหรงอวี้ต้องจามออกมา 


ที่นี่ที่ไหนกัน? ก่อนหน้าเขาจำได้ว่าตัวเองกำลังซักผ้า...


ตรงข้ามกันก็คือคุณชายใหญ่ลู่หมิน ที่นอนไม่ได้สติอยู่ หรงอวี้พยายามนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้า แต่กลับจำสิ่งใดไม่ได้ พลันเขาก็คิดถึงซูอี้กับลูก ป่านนี้สองพ่อลูกคงออกตามหาเขาไปทั่ว 


“อืม....”


เหมือนว่าคุณชายลู่หมินจะได้สติขึ้นมา เขาขยับตัวและค่อยลืมตาทีละนิด ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าตนเองไม่ได้อยู่ที่จวน 


“ท...ที่นี่คือ!?”


“ข้าเองก็ไม่รู้หรอก” หรงอวี้ตอบเสียงเรียบ


“หะ! จะเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน? ข้าไม่ได้พาเจ้ากลับจวนหรอกรึ!?” คุณชายใหญ่ทำหน้าตาตกใจเสียเต็มประดา หรงอวี้ได้ยินแบบนนั้นก็โมโหทันที 


“เจ้าลักพาตัวข้า!! อย่าให้ข้าออกไปได้ ข้าเอาเจ้าตายแน่!” 


หรงอวี้ชี้หน้าคุณชายลู่หมิน แต่อาการของคุณชายใหญ่แห่งจวนลู่ในตอนนี้คล้ายคนสติแตก แค่ตื่นมาในที่ไม่คุ้นเคยก็หวาดผวา หรงอวี้ส่ายหน้าอย่างสมเพช คนอย่างลู่หมินปล่อยให้เป็นบ้าคงดีที่สุดแล้ว 


ในนี้หรงอวี้ไม่สามารถใช้พลังได้ มันคล้ายกับคุกมืดใต้พิภพของสวรรค์ 


“คิดสิลู่เจิน เจ้าเคยมาที่นี่หรือไม่?”


เมื่อหาหนทางไม่ออกก็จำต้องเดาจากความรู้สึกของลู่เจิน แต่ก็สัมผัสได้เพียงความหวาดกลัวและความเสียใจ ยิ่งเห็นลู่หมินพึมพำอย่างคนเสียสติ ความรู้สึกของลู่เจินยิ่งอ่อนไหว


“ข้าขอให้เจ้าตั้งสติลู่เจิน! ลูกชายของเจ้ารออยู่ อย่างน้อยเจ้าควรสู้เพื่อเขา”


ทุกอย่างสงบนิ่ง ความรู้สึกของลู่เจินก็มีไม่มากพอให้หรงอวี้รับรู้ 


“คอยดูเถอะ ข้าจะยึดจื่อเฉิงมาเป็นลูกชายของข้าคนเดียว หึ่ย!”


มองไปทางไหนหรงอวี้ก็หงุดหงิดใจไปหมด หวังพึ่งพาลู่เจินก็ไม่ได้เรื่อง นี่เขาคิดว่าตัวเองยังรักจื่อเฉิงมากกว่าที่ทั้งสองรักเสียอีก เข้าใจแล้วว่าทำไมซูอี้ถึงอยากให้เขาได้เป็นแม่ของลูก 


กึก! กึก! กึก!


เสียงฝีเท้าของคนจำนวนหนึ่งกำลังมาทางหรงอวี้ ในตอนนั้นเขาคิดหาวิธีเอาตัวรอด อย่างไรก็ต้องกลับไปเจอหน้าซูอี้กับลูกชายให้ได้ แม้จะต้องสู้กันแบบตัวต่อตัวก็ตาม 


“คาราวะนายหญิงขอรับ”


“หะ!?”


“ข้าได้รับคำสั่งให้ดูแลท่านอย่างดี จนกว่าท่านประมุขจะกลับมา” 


“เจ้ามองเพศข้าออกไหม? นายหญิงอะไรของพวกเจ้า! ข้าคือบุรุษเพศขนานแท้ไม่มีสตรีผสม” 


“เดิมทีท่านเคยเป็นสตรี”


หรงอวี้กรอกตามองบนเมื่อได้ฟัง เขาอยากจะบ้าตาย นี่ก็เป็นอีกบททดสอบของห้วงฝันอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นพวกมันจะจับตัวของเขามาเพื่อสิ่งใด เขาปรายตามองคุณชายใหญ่ที่ยังคงพร่ำเพ้อ ก่อนจะเอ่ยประโยคขัดใจของตัวเองขึ้นมา 


“ปล่อยเขาไปได้ไหม?”


“ไม่ได้ขอรับนายหญิง คนผู้นี้กำลังลวนลามท่านตอนที่ท่านประมุขไปพบ และมีคำสั่งให้คุมขังเขาจนกว่าท่านประมุขจะกลับมา” 


“ประมุข?”


“ตอนนี้นายหญิงอาจยังจดจำไม่ได้ แต่ข้าจะเป็นคนอธิบายให้ท่านฟังเอง” 


บอกเลยว่าเขาค่อนข้างขัดใจกับคำว่านายหญิง ถึงจะคลอดลูกออกมาได้ และเป็นแม่ของเด็กคนหนึ่งในตอนนี้ แต่หรงอวี้ยังคงยึดมั่นในความเป็นบุรุษเพศ นี่มันหยามฉายาขวัญใจของเทพธิดามากเกินไปแล้ว 


“ข้าขอแนะนำตัวอีกครั้ง ข้าคือ เหยียนเยว่ เป็นบ่าวรับใช้ของประมุขหานไถ่”


“ที่นี่คือเมืองอสูร และท่านก็คือภรรยาของท่านประมุข”


“เดี๋ยวก่อน!”


“ขอรับ”


“เจ้ากำลังเข้าใจผิดเหยียนเยว่ ข้าคือ ลู่เจิน ศรีภรรยาของเจ๋อต้า มีลูกชายหนึ่งคนชื่อ จื่อเฉิง” 


“ท่านไม่ใช่ลู่เจินขอรับ” 


“หะ! หมายความอย่างไร? หรงอวี้ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย” 


เอาเป็นว่าหลังท่านประมุขกลับมา คงบอกนายหญิงทุกอย่างเอง แต่ว่าตอนนี้ข้าคงพูดได้แค่เรื่องทั่วไปให้ท่านคุ้นเคย 


“เจ้าต้องปล่อยข้าไป ข้ามีลูก”


“เด็กคนนั้นก็ไม่ใช่ลูกของท่านขอรับ ท่านไม่เคยมีลูก” เหยียนเยว่ตอบอย่างใจเย็น


“พูดอะไรของเจ้า!”


“ข้าพูดความจริงขอรับ เรื่องนี้เดี๋ยวท่านเองก็จะได้รับรู้เช่นกัน” 


หรงอวี้โมโหจนแทบจะระเบิดออกมา แต่กลับใช้พลังไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อควบคุมเทพเอาไว้ บ่าวรับใช้ตรงหน้ายังคงอธิบายเรื่องราวในวันวานต่อ ยาวเหยียดเป็นตำราพันหน้าที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ เขาว่าเรื่องนี้ต้องมีการเข้าใจผิด


“มนุษย์อย่างข้าเกิดและตาย ตายแล้วเกิดใครจะไปจำได้”


“ท่านแน่ใจหรือขอรับ”


“แน่ใจอะไร?”


“ก็เมื่อครู่ท่านบอกว่าตัวเองเป็นมนุษย์” เจ้าอสูรเหยียนเยว่นี่ยังไงกัน ดูจะฉลาดเฉลียวไม่น้อย 


“เช่นนั้นข้าควรเป็นอะไร? เป็นมนุษย์ที่ประหลาดอย่างนั้นหรือ?” 


“ไม่รู้สิขอรับ อาจเป็นเทพบนสรวงสวรรค์”


“...!”


“ตามมาเถิดขอรับนายหญิง ยังมีอีกหลายที่ที่ข้าต้องอธิบายให้ท่านฟัง” หรงอวี้ชักไม่แน่ใจแล้วว่านี่คือห้วงความฝันของเทพวารี และเมืองอสูรนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา 

 

 


#ห้วงฝันอวลกลิ่นรัก


0 ความคิดเห็น

Enjoybook
ที่อยู่ : 4/12 ม.5 ซ.ไสวประชาราษฏร์25 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา ปทุมธานี 12150
เวลาทำการ : 09.00-18.00 น. จันทร์-ศุกร์